5ไอเดียการลงทุนพนักงานประจำ

แนะนำ 5 ไอเดียการลงทุนพนักงานประจำที่ไม่อยากทำอาชีพเสริม

อยากรวย โดยไม่ต้องทำงาน แต่ให้เงินทำงานให้เรา ก็ต้องลงทุนค่ะ ขายไอเดียแนะนำ 5 ไอเดียการลงทุนที่พนักงานประจำห้ามพลาด


อยากรวย อยากมีเงิน แต่ไม่มีเวลาไปทำงาน ทำอาชีพเสริมใช่ไหมละค่ะ? บทความนี้เหมาะกับคุณมากๆ ค่ะ ถ้าคุณเป็นพนักงานประจำที่มองหารายได้เสริม โดยไม่ต้องลงแรง จะเป็นอะไรนั้น ไปดูกันเลยค่ะ 

ข้อดีของการเป็นพนักงานประจำ ก็คือ ชื่อก็บอกแล้วว่าประจำ เพราะฉะนั้นรายได้ที่ได้เข้ามาก็จะได้มาเป็นประจำทุกเดือน ได้แบบชัวร์ๆ ไม่เหมือนกับผู้ที่ทำงานเป็น ฟรีแลนซ์ แต่ข้อเสียของการเป็นพนักงานประจำก็คือ ขีดจำกัดของรายได้ ที่ยอดของรายได้นั้นก็จะได้เท่ากันทุกเดือนซึ่งต่างจากคนที่ทำงานเป็นฟรีแลนซ์ 

“พนักงานประจำหลายคนก็จะคิดว่า แล้วเมื่อไรฉันจะรวยกับเขาสักที?”

มาค่ะ สำหรับใครที่เป็นพนักงานประจำ ที่มีรายได้ประจำอยู่แล้ว แต่อยากให้เงินงอกเงยโดยที่ไม่ต้องทำงาน ไม่อยากทำอาชีพเสริม ไปดูไอเดียการลงทุนเพื่อให้เงินออกดอกออกผลกันดีกว่าค่ะ 

5 ไอเดียการลงทุน สำหรับพนักงานประจำ 

1.กองทุนสำรองเลี้ยงชีพ

กองทุนสำรองเลี้ยงชีพ คือ กองทุนที่นายจ้างและลูกจ้างร่วมกันจัดตั้งขึ้น โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อเก็บออมเงินให้ลูกจ้างใช้จ่ายตอนเกษียณอายุแล้วและถือว่าเป็นสวัสดิการส่วนหนึ่งที่นายจ้างมีให้แก่ลูกจ้าง

คำแนะนำสำหรับการลงทุนในกองทุนสำรองเลี้ยงชีพตามช่วงอายุต่าง ๆ

  • ช่วงอายุ 22 – 30 ปี เป็นช่วงเริ่มต้นการทำงาน และยังไม่มีภาระมากเท่าไหร่ อีกทั้งมีระยะเวลาการลงทุนที่นาน รับความเสี่ยงได้สูง สามารถเลือกลงทุนในหุ้นได้ถึง 80 – 90% และอีก 10 – 20% ก็เลือกลงทุนในสินทรัพย์ปลอดภัย
  • ช่วงอายุ 31 – 45 ปี เป็นช่วงของการสร้างครอบครัว หน้าที่การงานเริ่มมั่นคง รายได้สูงขึ้น ในขณะที่ค่าใช้จ่ายก็สูงตามไปด้วย อีกทั้งยังมีภาระต่างๆ ให้รับผิดชอบมากขึ้น ทำให้ความสามารถในการรับความเสี่ยงน้อยลง ดังนั้นแนะนำให้ลงทุนหุ้นประมาณ 50% ส่วนอีก 50% ให้นำไปลงทุนในตราสารหนี้หรือเงินฝากประจำเพื่อเป็นการลดระดับความเสี่ยงของพอร์ตลง
  • ช่วงอายุ 46 – 55 ปี เป็นช่วงของการเตรียมเงินเพื่อการเกษียณอายุ ด้วยอายุที่เพิ่มขึ้นและระยะเวลาการลงทุนที่เหลือสั้นลง ทำให้ช่วงนี้ต้องทยอยลดการลงทุนในหุ้นให้เหลือประมาณ 30 – 40% 
  • อายุตั้งแต่ 55 ปีขึ้นไป เป็นช่วงอายุที่เข้าสู่วัยเกษียณ ต้องระมัดระวังการลงทุนให้มากที่สุด เพราะไม่สามารถลงทุนในสินทรัพย์ที่มีความเสี่ยงสูงได้มากเหมือนวัยอื่นๆ แนะนำปรับพอร์ตการลงทุนให้เหลือการลงทุนในหุ้นประมาณ    10 – 15%

กองทุนสำรองเลี้ยงชีพนับได้ว่าเป็นแหล่งเงินออมเพื่อการเกษียณอายุที่สำคัญมากสำหรับพนักงานบริษัทเลยก็ว่าได้ เราจึงต้องมีความรู้ความเข้าใจในการลงทุน สนใจติดตามผลการดำเนินงานของกองทุนอยู่เสมอ รวมไปถึงเลือกแนวทางการลงทุนที่เหมาะสม เพื่อให้กองทุนสำรองเลี้ยงชีพนี้ตอบโจทย์เป้าหมายการเกษียณอายุของเราได้นั่นเอง

2.กองทุนรวม LTF

กองทุนรวมหุ้นระยะยาว (LTF) เป็นกองทุนที่เน้นลงทุนใน “หุ้น” ระยะยาวไม่ต่ำกว่า 65 % ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุนรวม โดยมีทั้งกองทุนที่จ่ายเงินปันผลและไม่จ่ายเงินปันผล ผู้ลงทุนสามารถนำเงินลงทุนไปใช้สิทธิลดหย่อนภาษีเพิ่มแม้ใช้สิทธิประโยชน์ทางภาษีจาก RMF หรือกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ

คำเตือนสำหรับนักลงทุน

  • ผู้ลงทุนควรทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไขผลตอบแทน ความเสี่ยง และ ศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับ สิทธิประโยชน์ทางภาษีที่ระบุไว้ในคู่มือการลงทุนของกองทุน LTF/RMF ก่อนตัดสินใจลงทุน
  • ผู้ถือหน่วยลงทุนของกองทุน RMF/LTF จะไม่ได้รับสิทธิประโยชน์ทางภาษีหากไม่ปฏิบัติ ตามเงื่อนไขการลงทุน และจะต้องคืนสิทธิประโยชน์ทางภาษีที่เคยได้รับ พร้อมเงินเพิ่ม

3.กองทุนรวม RMF

RMF (Retirement Mutual Fund) หรือ “กองทุนรวมเพื่อการเลี้ยงชีพ” เป็นกองทุนที่ส่งเสริมให้มีการออมเงินในระยะยาวเพื่อใช้จ่ายเมื่อเกษียณ นโยบายการลงทุนมีหลากหลาย คือสามารถลงทุนในสินทรัพย์หลายประเภท ไม่ใช่แค่หุ้นอย่างเดียว เช่น พันธบัตรรัฐบาล ตลาดเงิน ตราสารหนี้เอกชน หุ้น หุ้นต่างประเทศ ทองคำ เป็นต้น มีความเสี่ยงตั้งแต่ระดับต่ำ-กลาง-สูง อีกเงื่อนไขที่สำคัญคือ จะต้องลงทุนใน RMF มาแล้วไม่น้อยกว่า 5 ปีและอายุครบ 55 ปี จึงจะขายคืนกองทุนออกมาได้ โดยไม่ผิดเงื่อนไขของการได้รับสิทธิประโยชน์ทางภาษี

แน่นอนว่าเมื่อพูดถึงการออมเงินให้เห็นผล สิ่งที่สำคัญคือ “ความต่อเนื่อง” ดังนั้นไม่แปลกที่ RMF จะกำหนดให้ต้องลงทุนทุกปี (เว้นได้ไม่เกิน 1 ปีติดต่อกัน) ยกเว้นปีใดที่ไม่มีรายได้ก็ไม่ต้องลงทุน (ซึ่งการนับระยะเวลาลงทุน 5 ปีจะนับเฉพาะปีที่มีการซื้อหน่วยลงทุนเท่านั้น) เพื่อให้เราได้สะสมเงินให้งอกเงยต่อเนื่องไป

4.ประกันชีวิต

พนักงานประจำหลายคนมองข้ามและละเลย การซื้อประกันชีวิต ซึ่งจริงๆแล้วการซื้อประกันชีวิตก็เป็นการลงทุนชนิดหนึ่ง ที่ป้องกันความเสี่ยงในระดับหนึ่งเกี่ยวกับชีวิตของเราค่ะ 

5.คริปโตเคอเรนซี่

วิธีนี้เป็นวิธีที่กำลังมาแรงเลยค่ะ กับการลงทุนในคริปโตเคอเรนซี่หรือว่า บิทคอยน์ ที่พนักงานประจำ กำลังให้ความสนใจศึกษาและลงทุนกับคริปโตค่ะ เพราะว่าผลตอบแทนค่อนข้างสูง ความเสี่ยงก็สูงเช่นกันค่ะ 

สนใจลงทุนกับ Bitkub(บิทคับ)

bitkubสมัคร

เป็นยังไงละค่ะกับ 5 ไอเดียการลงทุนสำหรับพนักงานประจำ ที่ขายไอเดียได้นำมาฝากคุณผู้อ่านในวันนี้ 

**การลงทุนมีความเสี่ยงสูงผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลก่อนการลงทุนทุกครั้งด้วยนะค่ะ 

อ่านเพิ่มเติม

อยากรวยเร็วๆ

และถ้าหากคุณกำลังมองหาวิธีการหาเงิน ไอเดียต่างๆในการทำงานและการเงินกดเข้าร่วมและติดตาม Facebook Page ขายไอเดียได้เลยค่ะ 

สนใจเข้าร่วมกลุ่ม แนะนำไอเดียการหาเงิน >> >>คลิก

ติดตามขายไอเดียอีกหนึ่งช่องทางได้ที่ Facebook >> >>คลิก

ติดตามช่องทางขายไอเดียพอดแคสต์ >> Podcast คลิก

ขายไอเดีย แหล่งรวมไอเดียคอนเทนต์ความรู้ออนไลน์ แชร์บทความนี้ให้คนที่คุณรักและหวังดีได้อ่านด้วยนะค่ะ กดแชร์ที่ปุ่มไอคอนด้านล่างนี้ได้เลยค่ะ

3,510 Views จำนวนผู้เยี่ยมชม