Idea เดินห้างอย่างไร ให้ได้ไอเดียสร้างเงินล้าน

‘ไม่พอใจ ยินดีคืนเงิน’ เจ็บปวดกันมาเท่าไรแล้วกับคำโปรยโฆษณานี้ เงื่อนไขการรับเงินคืนหรือเคลมสินค้าก็ช่างมากมายเสียเหลือเกิน

หรือแม้แต่สินค้าบางอย่างเราก็ไม่กล้าที่จะซื้อขนาดปกติหรือขนาดใหญ่ที่คุ้มค่าเงินมากกว่ามาใช้ โดยเฉพาะถ้าเป็นผลิตภัณฑ์จำพวกเครื่องดูแลผิวหน้า ผิวกาย และหนังหัวแล้วล่ะก็ หากเกิดอาการแพ้ขึ้นมาแล้วซวยเลย

นอกจากจะทำให้เกิดอาการระคายเคืองแล้ว การคืนสินค้าที่เปิดใช้งานไปแล้วบางส่วน บางร้านก็ไม่รับเปลี่ยนคืน หรือถ้าเปลี่ยนได้ ก็มีเงื่อนไขหลายอย่างเป็นตัวกรองอีก

มิหนำซ้ำในประเทศไทยก็ไม่ค่อยที่จะผลิตสินค้าจำพวกนี้ในขนาดทดลองมากนัก

‘มิเชล ฟาน’ (Michelle Phan) บิวตี้กูรูผู้บุกเบิกการทำคลิปความสวยความงามในยูทูบจึงเล็งเห็นโอกาสธุรกิจในจุดนี้ เกิดไอเดียและได้ริเริ่มเปิดบริษัท ‘Ipsy’ ขึ้นมา

ซึ่งเป็นบริการสมัครสมาชิกรายเดือนเพื่อส่งกระเป๋า Galm Bags ที่บรรจุด้วยเครื่องสำอางแบรนด์ดังขนาดทดลอง 5 ชิ้นไปให้กับสมาชิกผู้ใช้งาน ในราคา $10 ต่อเดือน

เธอให้สัมภาษณ์กับทาง Girlboss ทาง Podcast ว่า เมื่อครั้งที่เธอมาเที่ยวไทยในปี 2008-2009 ขณะเดินห้างอยู่ก็เหลือบไปเห็นหญิงสาวมากหน้าหลายตารุมล้อมกันซื้อเครื่องสำอางขนาดทดลองที่เป็นแบรนด์มีชื่อเสียงและราคาสูง อย่างเช่น Lancome

ฟานเลยเข้าไปถามว่า “ทำไมต้องซื้อขนาดทดลอง ไม่ซื้อขนาดปกติไปเลยล่ะ” และก็ได้ความกลับมาจากเพื่อนเธอว่า เพราะที่ไทยถ้าซื้อเครื่องสำอางจากร้านไหนแล้ว หากไม่พอใจในสินค้ามักจะไม่สามารถเอามาเปลี่ยนคืนได้เมื่อแกะใช้ไปแล้ว หรือการทำเรื่องคืนเงินก็เป็นเรื่องค่อนข้างหลายขั้นตอนพอตัว

เธอรู้สึกแปลกใจ เพราะในอเมริกานั้น การคืน/เปลี่ยนสินค้า สามารถทำได้ง่ายดายมาก แม้ว่าจะใช้ไปถึงครึ่งหนึ่งของผลิตภัณฑ์ที่ซื้อมาแล้วก็ตาม หากไม่พอใจยังไงก็เอาไปคืนที่ร้านและได้เงินกลับคืนมาเต็มจำนวน

นอกจากเรื่องของขนาดแล้ว ยังเป็นเรื่องของราคาอีก ถ้าเป็นขนาดปกติก็จะมีราคาแพงกว่าขนาดทดลองอย่างมากเลยทีเดียว

เมื่อได้ทำบริการกระเป๋าเครื่องสำอางขนาดทดลองไปได้สักพัก ฟานยังได้แตกไลน์แบรนด์ด้วยการทำโครงการต่าง ๆ เช่น Ipsy Open Studio เพื่อสนับสนุนให้ผู้สร้างสรรค์ด้านความงามได้ถ่ายทอดเรื่องราวอีกด้วย

การเริ่มต้นทำธุรกิจในนาม Ipsy ของฟานได้รับความนิยมอย่างล้นหลาม ภายใน 1 ปีแห่งการเริ่มต้น เธอทำยอดขายได้ถึง 120 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (3,769,200,000 บาท) และยอดสมาชิกก็เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วถึง 700,000 คนในระยะเวลา 3 ปี

ในความเป็นจริงแล้ว เธอไม่ได้จบการศึกษามาจากสายของธุรกิจเลย แต่เธอจบมาจากสาย ‘ศิลปะ’ ที่แตกต่างของไปจากโลกแห่งนี้มาก

แล้วฟานใช้วิธีไหนในปรับเปลี่ยนเรียนรู้ในการริเริ่มทำธุรกิจเป็นของตัวเอง ?

เธอบอกว่า เกร็ดธุรกิจที่ได้เรียนรู้นั้นมาจาการเข้าไปนั่งในห้อง ‘boardroom’ หรือที่เรียกกันว่า conference room นั่นเอง ไม่ว่าจะเป็นงานสัมมนาหรือการประชุมเปิดต่าง ๆ เธอจะเข้าไปเก็บเกี่ยวเอาความรู้ด้วยเสมอ

สิ่งที่ฟานทำนั่นก็คือ ‘การสังเกต’ เมื่อมีคนใดคนหนึ่งพูดอะไรขึ้น เธอจะ ‘จดจำ’ และรีบเอาไป ‘ค้นคว้า’ ต่อที่บ้านในทันที เพราะที่แห่งนั้นคือขุมทรัพย์สำหรับเธอ เมื่อต้องการที่จะอยากรู้อะไร ถ้ารู้คีย์เวิร์ดที่จะค้นหา ก็จะทำให้เจอคำตอบได้ง่าย ๆ ทันที

ความสำเร็จของเธอไม่ได้มาอย่างง่ายดายนัก นอกจากความยากในการปรับตัวจากการทำยูทูปมาเริ่มต้นธุกิจแล้ว ฟานยังเผชิญกับคำตัดสินจากคนรอบข้างอย่างมากมาย

ไม่ว่าจะเป็นความเป็นเด็ก เป็นผู้หญิง และเป็นยูทูเบอร์ ที่คนในโลกธุรกิจนำมาประเมินความสามารถของเธอ ซึ่งจริง ๆ แล้ว สิ่งนี้เองแหละที่กลายเป็นแรงผลักดันให้กับเธอพบกับความประสบความสำเร็จได้อย่างเช่นทุกวันนี้

ที่มา ขายไอเดีย1 ขายไอเดีย2